History : Peter Ferdinand Drucker
Peter Ferdinand Drucker
บิดาแห่งการบริหารและการจัดการ
ปีเตอร์ เฟอร์ดินานด์ ดรักเกอร์(อังกฤษ: Peter
Ferdinand Drucker) เป็นทั้งนักเขียน ที่ปรึกษาด้านการจัดการ
และเป็นผู้บรรยายด้าน
"นักนิเวศน์สังคม"หนังสือของเขาเป็นแนวทางและแหล่งค้นคว้าด้านมนุษย์ที่จัดตั้งธุรกิจ,
องค์กร, รัฐบาล
และหน่วยงานไม่แสวงหาผลกาไรเพื่อสังคม
งานเขียนของเขาได้ทานายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงปลายศตวรรษที่ยี่สิบ
รวมทั้งความเป็นเอกชน และการกระจายอานาจ, ความรุ่งโรจน์ของญี่ปุ่นที่จะเป็นมหาอานาจทางเศรษฐกิจในยุคนั้น,
ความเห็นทางการตลาดที่สาคัญ ความเร่งด่วนของสังคมข้อมูลข่าวสาร
ซึ่งเป็นสิ่งจาเป็นต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
History
ปี เตอร์ ดรักเกอร์ เป็นบุตรของทนายความซึ่งมีชื่อว่า
อดอล์ฟและมารดาชื่อ แคโรรีน ดรักเกอร์ เกิดที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรียณ วันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1909
ดรักเกอร์ย้ายไปหางานทำที่ฮัมบูร์กแล้วเริ่มฝึกทำงานที่ บริษัทค้า ฝ้ายเป็นนักเขียนข่าวให้กับ หนังสือพิมพ์ Der sterreichische Volkswirt (ออสเตรี ย อิโคโนมิสต์) และปีเตอร์ได้สำเร็จ การศึกษาระดับปริญญาเอกด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแฟรงก์เฟิร์ต
ผลงานของเขาสร้างความประทับใจต่อโจเซฟซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อเขาเอง
เกี่ยวกับเรื่องแนวคิดของผู้ประกอบการ
ดรักเกอร์ ยังมีอิทธิพลต่อแนวคิดที่มีความแตกต่างไปจาก จอห์น เมย์นาร์ดเคนส์ ผู้ซึ่งได้บรรยายที่เคมบริดจ์เมื่อ ค.ศ. 1934 ว่า "ผมเพิ่งเข้าใจว่านักเรียนเศรษฐศาสตร์ของเคนส์ล้วนปราดเปรื่องในห้องเรียนซึ่งสนใจเกี่ยวกับความนิยมด้านสินค้า"
ในขณะที่ดรักเกอร์เขียนเอาไว้ว่า "ผมสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้คน"
ในขณะนั้นปีเตอร์ยังหนุ่ม เขามีผลงานเขียนอยู่สองชิ้น
และหนึ่งในนั้นเป็นผลงานที่เกี่ยวของกับการเมืองด้านศาสนาโดยเขากล่าวถึงนักปรัชญาชาวเยอรมันซึ่งมีชื่อว่า
เฟดเดอริช จูเลียส สตาห์ล แต่ทว่าผลงานเล่มนี้ได้ถูกระงับการจัดพิมพ์และถูกสั่งให้เผาทิ้งโดยฝ่ายนาซี
โดยผลงานนี้มีชื่อว่า “คำถามของชาวยิวในเยอรมัน” (The Jewish Question in Germany or Die
Judenfrage in Deutsdland)
ปี ค.ศ.1933 ปีเตอร์ได้เดินทางจากเยอรมันไปยังอังกฤษในกรุงลอนดอน
เขาได้ทำงานบริษัทประกัน และหลังจากนั้นเขาได้เป็นผู้นำนักเศรษฐศาสตร์คนสำคัญในธนาคารอย่างเป็นการส่วนตัว
ปี ค.ศ.1934 ปีเตอร์ได้แต่งงานกับ ดอริส ชมิตส์
และได้ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โดยเขาได้มาเป็น ศาสตราจาย์ในมหาวิทยาลัยและเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ตลอดจนที่ปรึกษทางธุรกิจ
ปี ค.ศ.1943 ปีเตอร์ได้โอนสัญชาติเป็นพลเมืองชาวอเมริกา และเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเบนนิงตันจนถึง
ค.ศ.1949
ปี ค.ศ.1950-1971 ในช่วงระหว่างปีนี้
ปีเตอร์ได้เป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก
ปี ค.ศ. 1959 ดรักเกอร์ได้ให้ความสำคัญต่อ "การเรียนรู้ของคนงาน"
และช่วง ปลายชีวิตเขาได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึง
"ความรู้ด้านการผลิตผลงาน" อันเป็นขอบเขตของความรู้ด้านการจัดการ
ด้วยเช่นกัน โดยแนวคิดต่างๆของเขายังไม่ล้าสมัยและเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจมายาวนานหลายทศวรรษ
ปี ค.ศ.1971 ปีเตอร์ได้เดินทางสู่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้พัฒนาหลักสูตรเอ็มบีเอด้านการบริหารสำหรับฝึกอาชีพที่ มหาวิทยาลัยแคลมอนต์ เกรดูเอท
(หลงัจากนั้น เป็นที่รู้จักกัน ในชื่อของ โรงเรียนแคลมอนต์ เกรดูเอท) ช่วงปีค.ศ. 1971 จนถึงช่วงที่เขาเสียชีวิตเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์พิเศษด้านสังคมศาสตร์กับการจัดการที่ มหาวิทยาลัยแคลมอนต์
เกรดูเอทและไดตั้งชื่อมหาวิทยาลัยขึ้นมาว่า "ปี เตอร์ เอฟ. ดรักเกอร์
เกรดูเอทสคูล ออฟ เมเนจเมนท์"(หลงัจากนั้น จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อในที่รู้จักกันว่า "ปี เตอร์ เอฟ. ดรักเกอร์ แอนด์ มาซาโตชิ อิโต้ เกรดู เอทสคูล ออฟ
เมเนจเมนท์") เพื่อเป็นการให้เกียรติ เมื่อปีค.ศ. 1987 เขาสอนในชั้นเรียนคร้ังสุดท้ายเมื่อปีค.ศ. 2002 ในขณะที่มีอายุได้ 92
ปี
ในปี 2003 บริษัทสื่อดี จำกัด ได้รับเกียรติตอบรับจำกดรักเกอร์ในการถ่ายทอดความรู้ผ่านระบการประชุมทางไกล (Teleconference)ในหัวข้อ“The Future of
Thailand” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่31 พฤษภาคม 2003
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2005 ในวัย
96ปี ที่บ้านของเค้าในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนหน้านั้นแม้จะมีอาการป่วยและเข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆแต่ดรักเกอร์ก็ไม่ เคยห่างเหินจากการคิดและการติดตามความเป็นไปของโลกรวมถึงเหตุการณ์สะเทือนขวญั
คนทั้งโลกอย่าง 9/11 ที่ ระหว่างนั้นเขาได้ผลิตความคิดชิ้นสำคัญออกมาสู่สังคมอีกคร้ังคือ
The Next Society
ปี เตอร์ ดรักเกอร์ เขียนหนงัสือเล่มแรกชื่อ The End of Economic Man
ปี เตอร์ ดรักเกอร์ ไดเ้ขียนหนงัสือทั้งหมดจำนวน 35 เล่ม หนึ่งในนั้น มีชื่อเสียงมากชื่อว่า ThePractice of Management and The
Effective Executive
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น